กฎหมายโดรนฉบับใหม่
สรุปครบจบในที่เดียว: ใครต้องทำ? ทำอย่างไร? และต่างจากทั่วโลกแค่ไหน?
ความรับผิดชอบ "ย้าย" จากผู้ซื้อ สู่ผู้ค้า
แบบเดิม (Before)
ผู้ซื้อ ต้องวุ่นวายขึ้นทะเบียนเอง “หลัง” การซื้อ
แบบใหม่ (After)
ผู้ค้า จัดการให้เรียบร้อย “ก่อน” ส่งมอบ
ผลกระทบ: ได้อะไร? เสียอะไร?
ข้อดี (Pros)
- รัฐคุมได้ 100%: ตรวจสอบง่าย ติดตามได้ทุกลำ สร้างความมั่นคง
- ผู้ซื้อสะดวกสุดๆ: รับของพร้อมบินได้เลย ไม่ต้องเดินเรื่องเอง
- สร้างมาตรฐานผู้ค้า: คัดกรองผู้ประกอบการที่ถูกกฎหมาย
ข้อเสีย (Cons)
- ภาระตกที่ผู้ค้า: เพิ่มขั้นตอน ต้นทุน และความยุ่งยากให้ผู้ประกอบการ
- ราคาอาจสูงขึ้น: ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของผู้ค้าอาจถูกส่งต่อมายังผู้บริโภค
- ผู้ค้ารายย่อยเสียเปรียบ: อาจกระทบการแข่งขันในตลาด
ข้อมูลสำคัญที่ต้องรู้เพิ่มเติม
โดรนแบบไหนต้องขึ้นทะเบียน?
โดรนที่มีกล้องถ่ายภาพ หรือ มีน้ำหนักเกิน 2 กิโลกรัม ต้องขึ้นทะเบียนกับ กสทช. และ กพท. ทั้งหมด
บทลงโทษหากฝ่าฝืน
หากไม่ขึ้นทะเบียนกับ กสทช. มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
กสทช.: ดูแลการขึ้นทะเบียนคลื่นความถี่
กพท.: ดูแลการขึ้นทะเบียนผู้บังคับโดรน
โมเดลไทย vs สากล
ประเทศไทย
ผู้รับผิดชอบ: ผู้ค้า (Seller)
รูปแบบ: เน้นลงทะเบียน “ตัวอุปกรณ์” (Device-centric)
ปรัชญา: ควบคุมจากต้นทาง
สากล (สหรัฐฯ / EU)
ผู้รับผิดชอบ: ผู้ใช้งาน (Operator)
รูปแบบ: เน้นลงทะเบียน “ผู้ใช้งาน” (User-centric)
ปรัชญา: เน้นความรับผิดชอบส่วนบุคคล
การขึ้นทะเบียนโดรนกับ กสทช.: ความปลอดภัย ความมั่นคง และบทเรียนจากต่างประเทศ
บทนำ
โดรนไม่ใช่เพียงอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงอีกต่อไป แต่กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในสื่อมวลชน เกษตรกรรม โลจิสติกส์ ไปจนถึงงานตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐาน การกำกับดูแลจึงเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อความปลอดภัยของสาธารณะและความมั่นคงของประเทศ บทความนี้สรุปสาระสำคัญจากประกาศของ กสทช. ว่าด้วยการขึ้นทะเบียน เครื่องวิทยุคมนาคมประเภทอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (โดรน) พร้อมเทียบมาตรฐานต่างประเทศ และชี้แนวโน้มที่ผู้ใช้งานควรรู้
ที่มาของประกาศ

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้มีหนังสือด่วนที่สุด แจ้งต่อผู้ได้รับใบอนุญาตให้ทำเครื่องวิทยุคมนาคมทุกประเภทให้ ดำเนินการขึ้นทะเบียนโดรนก่อนส่งมอบหรือใช้งาน โดยมีเหตุผลจากประกาศของ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ที่ห้ามปล่อยหรือใช้อากาศยานไร้คนขับโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อรักษาความปลอดภัย ความเป็นระเบียบ และความมั่นคงของประเทศ
ประเด็นสำคัญของประกาศ กสทช.
- ต้องขึ้นทะเบียนก่อนใช้งาน/ส่งมอบ – ผู้มีหรือจะจำหน่ายโดรนต้องทำให้เครื่องได้รับการขึ้นทะเบียนกับ กสทช. ก่อนใช้งานจริงหรือก่อนส่งมอบให้ผู้รับรายใหม่
- โดรนถือเป็นเครื่องวิทยุคมนาคม – เพราะมีการรับ-ส่งสัญญาณควบคุมและข้อมูล จึงอยู่ภายใต้กฎการบริหารจัดการคลื่นความถี่
- ยกระดับความปลอดภัยและความมั่นคง – ลดความเสี่ยงการก่อกวนการบิน การรบกวนสัญญาณ การสอดแนม หรือการใช้งานผิดวัตถุประสงค์
ผลกระทบต่อผู้ใช้งานและผู้ประกอบการ
- ผู้ใช้งานทั่วไป – ต้องเตรียมเวลาและค่าใช้จ่ายสำหรับการขึ้นทะเบียน แต่แลกมากับความมั่นใจว่าการใช้งานถูกกฎหมาย
- ผู้ประกอบการ/ร้านค้า – ควรแจ้งลูกค้าเรื่องข้อกำหนดการขึ้นทะเบียน และอาจจัดบริการช่วยดำเนินการเพื่อความสะดวก
- ภาครัฐและความปลอดภัยสาธารณะ – การมีฐานข้อมูลโดรนช่วยให้ติดตาม ตรวจสอบ และบังคับใช้กฎหมายได้มีประสิทธิภาพ
กฎหมายต่างประเทศ: เปรียบเทียบอย่างย่อ
หลายประเทศใช้หลักการคล้ายกัน ได้แก่ บังคับขึ้นทะเบียน การทดสอบ/ใบอนุญาตผู้ควบคุม และ ข้อจำกัดพื้นที่-เพดานบิน ตารางต่อไปนี้สรุปภาพรวมเพื่อการเปรียบเทียบ:
ประเทศ/หน่วยงาน | ต้องลงทะเบียนเมื่อ | ใบอนุญาต/การสอบ | ข้อจำกัดหลัก | โทษเด่นเมื่อฝ่าฝืน |
---|---|---|---|---|
สหรัฐอเมริกา (FAA) | น้ำหนัก >= 250 กรัม | เชิงพาณิชย์ต้องมี Part 107 (สอบข้อเขียน) | ห้ามบินใกล้สนามบิน/พื้นที่หวงห้าม | โทษตามกฎหมายการบินพลเรือนของสหรัฐฯ |
สหราชอาณาจักร (CAA) | น้ำหนัก >= 250 กรัม ต้องมี Operator ID | ผู้ควบคุมต้องมี Flyer ID (ทดสอบความรู้) | สูงไม่เกิน ~120 ม. และเว้นระยะจากคน/อาคาร | ค่าปรับตามกฎหมายการบินของสหราชอาณาจักร |
ญี่ปุ่น (MLIT) | บังคับจดทะเบียน ทุกขนาด | เน้นตรวจสอบตัวตนด้วย Remote ID | พื้นที่หวงห้ามและเพดานบินตามประกาศ | ปรับสูงสุด ~500,000 เยน (กรณีไม่ลงทะเบียน) |
สิงคโปร์ (CAAS) | น้ำหนัก >= 250 กรัม | บางกิจกรรมต้องขออนุญาตเพิ่ม | ห้ามบินในเขตความมั่นคง/สนามบิน | ปรับสูงสุด ~50,000 ดอลลาร์สิงคโปร์/จำคุก |
*ข้อมูลสรุปเพื่อภาพรวม อาจมีการเปลี่ยนแปลง/รายละเอียดปลีกย่อยเพิ่มเติม ควรตรวจสอบข้อกำหนดล่าสุดกับหน่วยงานแต่ละประเทศก่อนใช้งาน
บทเรียนและแนวโน้มในอนาคต
- มาตรฐานสากลกำลังบรรจบกัน – ประเทศต่าง ๆ เน้นลงทะเบียน + ทดสอบความรู้ + กำหนดพื้นที่บิน
- Remote ID – มีแนวโน้มถูกนำมาใช้กว้างขึ้น (ญี่ปุ่นใช้แล้ว) เพื่อระบุตัวตนแบบเรียลไทม์และลดความเสี่ยง
- การประยุกต์ใช้งานโตอย่างต่อเนื่อง – สื่อ เกษตร โลจิสติกส์ ความปลอดภัย และตรวจสภาพโครงสร้าง ส่งผลให้กติกาเข้มงวดยิ่งขึ้น
สรุป
การบังคับขึ้นทะเบียนโดรนของ กสทช. เป็นกลไกสำคัญในการบริหารจัดการคลื่นความถี่และความปลอดภัยสาธารณะ สอดคล้องทิศทางสากล ผู้ใช้งานควรมองการขึ้นทะเบียนไม่ใช่ภาระ แต่คือ ความรับผิดชอบร่วมกันต่อสังคม เพื่อให้เทคโนโลยีโดรนสร้างประโยชน์สูงสุดอย่างปลอดภัยและยั่งยืน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
1) ทำไมโดรนจึงต้องขึ้นทะเบียนกับ กสทช.?
เพราะโดรนเป็นเครื่องวิทยุคมนาคมที่มีการรับ-ส่งสัญญาณ การขึ้นทะเบียนช่วยจัดระเบียบการใช้คลื่นความถี่ ลดการรบกวนระบบสื่อสาร/การบิน และเพิ่มความปลอดภัยสาธารณะ
2) หากไม่ขึ้นทะเบียนจะเกิดอะไรขึ้น?
อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายที่เกี่ยวข้องและมีโทษตามที่กำหนด ทั้งนี้รายละเอียดโทษขึ้นอยู่กับประกาศและกฎหมายที่ใช้บังคับในช่วงเวลานั้น ๆ
3) ต้องลงทะเบียนทุกกรณีหรือไม่?
โดยหลักแล้วควรตรวจสอบว่าโดรนของคุณมีการรับ-ส่งสัญญาณ (เกือบทุกรุ่น) และอยู่ในข่ายที่กฎหมายกำหนด หากใช้งานในไทยให้ดำเนินการขึ้นทะเบียนตามประกาศของ กสทช./กพท. ก่อนใช้งาน
ข้อแนะนำสุดท้าย: ก่อนบินทุกครั้ง ตรวจพื้นที่/ข้อห้ามการบิน อัปเดตกฎหมายล่าสุด และพกหลักฐานการลงทะเบียนติดตัวไว้เสมอ
บทความนี้เรียบเรียงจากสาระสำคัญในหนังสือด่วนที่สุดของ กสทช. ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2566 เรื่องการขึ้นทะเบียนเครื่องวิทยุคมนาคมประเภทอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (โดรน) พร้อมการอ้างอิงแนวปฏิบัติของต่างประเทศเพื่อการเปรียบเทียบเชิงนโยบาย
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
พร้อมให้คำปรึกษาและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโดรน
LINE: @droneth คลิกเพื่อเพิ่มเพื่อน →